วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ฟุตบอล: เรือใบสีฟ้าเฉือนชนะปีศาจแดงที่ประกอบด้วย 10 บุคคล 1-0

เรือใบสีฟ้า เปิดบ้านเฉือนชนะผีแดงที่มี 10 คน ผลบอล 1 : 0 



  • ศึกฟุตบอล ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
  • แข่งวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2557
  • พวกแมนฯ ซิตี้ 1 - 0 เหล่าแมนฯ ยูไนเต็ด
  • แข่งที่สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
  • กรรมการผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
  • ช่องถ่ายทอดสด : cth.sanook.com


เพื่อฟุตบอลศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014 - 2015 ประจำวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2557 โดยที่คู่เอกนั้น เป็นเกมที่ สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่างเหล่า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ กรุ๊ปปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะได้ เวย์น รูนี่ย์ กัปตันเหล่าพ้นโทษแบนกลับมา

เกริ่นเกมในครึ่งแรก

ม่านเกมส์มาได้ 2 นาที ทีม แมนฯ ยู ได้ทักทายก่อนโดย อังเคล ดิ มาเรีย วางบอลเข้าเขตโทษให้ มาร์กอส โรโฮ โฉบมาโขกตรงตัว โจ ฮาร์ท แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

นาทีที่ 5 เจ้าถิ่น ฝ่ายแมนฯ ซิตี้ มีลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ เซอร์คิโอ อเกวโร่ กระชากบอลข้าม อันโตนิโอ วาเลนเซีย ในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดไปติดเซฟ เด เคอา

นาทีที่ 9 อังเคล ดิ มาเรีย โยนบอลเข้าเขตโทษให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนโหม่งชงย้อนให้ อัดนาน ยานูไซ ตามมาวอลเลย์แถวสอง แต่ไม่ตรงกรอบ

ในนาทีที่ 17 คณะแมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาเสียฟุตบอลในแดน ซิตี้ เจมส์ มิลเนอร์ โยนบอลสวนกลับไปถึง เซอร์คิโอ อเกวโร่ เอาบอลลง ก่อนกระชากหนี มาร์กอส โรโฮ เข้าไปกดด้วยขวา แต่ไม่ทะลุทะลวงมือ ดาบิค เด เคอา

นาทีที่ 18  เซอร์คิโอ อเกวโร่ เบิ้ลบอลเร็วเข้าเขตโทษให้ เฆซุส นาบาส สอดเข้ามาแปเน้นๆ แต่ ดาบิค เด เคอา ยังเหนียวปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

ต่อมานาทีที่ 22 คณะเจ้าถิ่นบุกต่อเนื่อง กับมีลุ้นอีก พอ แฟร์นันโด จ่ายบอลจากกราบซ้ายปาดเข้ากลางไปหน้าประตูถึง เซอร์คิโอ อเกวโร่ ที่กำลังจะซัด แต่ ดาบิค เด เคอา ออกมาตัดเกมได้ทัน ก่อนทั้งสองคนจักปะทะกันแต่ไม่หนักมากลุกขึ้นมาเล่นต่อได้

และในนาทีที่ 37 แฟนเจ้าถิ่นก็ได้เฮ แต่เฮที่คณะเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด มาเหลือกระฉ่อนผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ คริส สมอลลิ่ง ช้าไป ทำให้เสียบโดนขา เจมส์ มิลเนอร์ ล้มลง พร้อมกับเป็นใบเหร่ำลืองที่สองก่อนโดนใบแดงไล่ออกสนามไป

ซึ่งช่วงท้ายเกมทั้งสองพวกยังทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันผลบอล 0 - 0


โหมโรงเกมส์ในครึ่งหลัง


ต่อมานาทีที่ 48 กรุ๊ปแมนฯ ซิตี้ มีโอกาส ขณะ เฆซุส นาบาส เปิดบอลจากขวาเข้ากรอบเขตโทษ มาร์กอส โรโฮ ได้สกัดบอลมาเข้าทาง ปาโบล ซาบาเลต้า วิ่งเมาซัดเหินข้ามคาน

พร้อมด้วยในนาทีที่ 63 ทีมแมนฯ ซิตี้ ก็ได้เฮกันอีกครั้ง พอมาได้ประตูออกนำ 1 - 0 จากบอลทะลุช่องของ ยาย่า ตูเร่ ให้ กาแอล กลิชี่ เติมขึ้นมาด้านซ้ายก่อนปาดไปหน้าประตูถึง เซอร์คิโอ อเกวโร่ แปเสยแสกหน้า ดาบิค เด เคอา เข้าไปตุงเพดาน

นาทีที่ 71 ซึ่งอังเคล ดิ มาเรีย โยนบอลยาวเข้ากรอบโทษให้ มารูยาน เฟลไลนี่ โฉบมาโขกโล่งๆ แต่บอลไปโดนหัวไหล่เลยหลุดกรอบออกหลังไป

นาทีที่ 77 กรุ๊ปแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตู โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงไปติดผู้เล่น แมนฯซิตี้ กระดอนกลับมาก่อนไหลออกขวาให้ อังเคล ดิ มาเรีย ซัดด้วยขวา แต่ โจ ฮาร์ท ยังปิดมุมได้ดีปัดออกหลังไป

ต่อมานาทีที่ 83 หมู่เยือน ได้ลุ้นอีก อังเคล ดิ มาเรีย โยนยาวจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา มารูยาน เฟลไลนี่ เบียดแย่งเข้ามาโขกบอลโด่งข้ามคาน

พร้อมด้วยในช่วงท้ายเกม หมู่แมนฯ ยูไนเต็ด บุกหนักขึ้นหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ยังไม่เก่งเจาะแนวรับเจ้าถิ่นได้ ทำให้จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แบบหวุดหวิด 1 - 0 เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ

มาดูรายนาม 11 ผู้เล่นแรกที่ลงสนามของทั้งสองกรุ๊ป

กรุ๊ปแมนฯ ซิตี้ 4-4-2 :

  1. โจ ฮาร์ท 
  2. ปาโบล ซาบาเลต้า
  3. แว็งซ็องต์ ก็องปานี 
  4. มาร์ติน เดมิเคลิส
  5. กาแอล กลิชี่ 
  6. เฆซุส นาบาส
  7. ยาย่า ตูเร่
  8. แฟร์นันโด
  9. เจมส์ มิลเนอร์ 
  10. สเตฟาน โยเวติช
  11. เซอร์คิโอ อเกวโร่ กุน


ฝ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด 4-3-1-2 :

  1. ดาบิค เด เคอา 
  2. อันโตนิโอ วาเลนเซีย
  3. คริส สมอลลิ่ง
  4. มาร์กอส โรโฮ 
  5. ลุค ชอว์ 
  6. อัดนาน ยานูไซ
  7. ดาเล่ย์ บลินด์ 
  8. มารูยาน เฟลไลนี่
  9. อังเคล ดิ มาเรีย 
  10. เวย์น รูนีย์
  11. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่


โค้ชเปเยติงพวกเรือ นำแล้วชิลด้วยกันไม่รีบปิดเกม




โค้ช เปเย วิเคราะห์ผลบอลยืนยัน พอใจกับ 3 คะแนน ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมทซ์ แต่ยังติงแข้ง เหล่าเรือใบ นำแล้วไม่โหมบุกเพื่อปิดเกม เกือบโดน หมู่ปีศาจแดง ตีเสมอหลายครั้ง

หลังจากที่ มานูเอล เปเยกรินี่ ซึ่งเป็นผู้จัดการหมู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่า พอใจแล้วผลชนะ 1 - 0 กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม ดาร์บี้ แมตช์ เท่าที่วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนที่เปลี่ยนมา แต่ว่าไม่ยินดีกับการทำผลงานของลูกทีมที่เหมือนจะพอใจแล้วหลังขึ้นนำ ไม่เดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ประตูเพิ่มกับปิดเกมเร็ว ทำให้คู่แข่งมีโอกาสโต้กลับพร้อมทั้งเกือบเป็นประตูหลายครั้ง

ซึ่งกุนซือชาวชิลี ได้กล่าวหลังจบเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ว่า ผมพอใจกับ 3 คะแนน เราต้องชนะ พร้อมทั้งเราเล่นได้ดีจนกระทั่งยิงประตู แต่หลังจากนั้นเหมือนเราจะคิดว่าเกมนี้มันจบแล้ว ทั้งที่มันยังไม่จบ

กับนอกจากนี้ เปเยกรินี่ ยังยืนยันว่า อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ฟูลแบ็กตัวหลักบาดเจ็บหนัก พร้อมกับมีโอกาสพลาดเกมกับ ฝ่ายอาแอส โรม่า ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธที่ 5 พฤศจิกายนนี้แน่นอน เพราะกล่าวว่า ผมไม่คิดอย่างนั้น จากการที่ลงเล่นไม่ได้ ซึ่งโคลารอฟ เจ็บกล้ามเนื้อน่อง พร้อมด้วยผมไม่คิดว่าเขาจะพร้อมเนื่องด้วยเกมกลางอาทิตย์

ซึ่งทั้งนี้ จากการเก็บ 3 คะแนนสำคัญทำให้ ทีมเรือใบสีฟ้า ได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ในตารางคะแนนตามหลัง เชลซี จ่าฝูงอยู่ 6 คะแนน


โค้ชฟานกัล ได้ป้องเฟลไลนี่ ว่าไม่ได้ถุยน้ำลายใส่หน้ากุน




ภายหลังที่ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งเป็นกุนซือ หมู่ปีศาจแดง ที่มั่นใจว่า มารูยาน เฟลไลนี่ นั้นไม่ได้ถุยน้ำลาย ใส่หน้า กุน อเกวโร่ ในจังหวะร้องเอาจุดโทษ ในเกม คณะแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่โปรแกรมบอล คณะผีแดง หลังบุกไปพ่าย ทีมเรือใบ ผลบอล 0 - 1

ครั้นหลุยส์ ฟาน กัล ที่เป็นผู้จัดการคณะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาปกป้อง มารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางชาวเบลเยียมของกลุ่ม จากกรณีที่โดนกล่าวหาว่าถ่มน้ำลายใส่หน้า เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ กองหน้าตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้อมทซ์ นัดที่ ทีมปีศาจแดง ได้บุกไปแพ้คู่ปรับร่วมเมือง 0 - 1 ตราบใดวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน ที่สร้างผ่านมา

พร้อมทั้งภาพช้าจากกล้องถ่ายทอดสดไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแสดงให้เห็นว่า มิดฟิลด์หัวฟู นั้นอาจจะไปถ่มน้ำลายใส่ อเกวโร่ ในจังหวะที่ เฟลไลนี่ เข้าไปต่อว่าดาวยิงพวกชาติอาร์เจนติน่า ที่เรียกร้องจะเอาลูกจุดโทษ ทว่า ฟาน กัล ให้การปกป้องอย่างเต็มที่ โดยชี้ว่ากองกลางพวกชาติเบลเยียมไม่ใช่นักเตะที่มีนิสัยเช่นนั้น

ซึ่งเขานั้นได้ให้ สัมภาษณ์กับสื่อว่า เรื่องที่กล่าวมานั้น ผมได้ยินว่ามันมีการตั้งคำถามบนโลกโซเชียล แต่ทันทีที่คุณตะโกนออกมา บางครั้งน้ำลายมันก็จะออกตามมานิดๆ มันเป็นธรรมดา ผมไม่คิดว่าเขาเป็นนักเตะที่ชอบถุยน้ำลายหรอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น